การฉีดโบท็อกซ์เป็นที่นิยมมาอย่างยาวนาน ซึ่งการวางแผนฉีดโบท็อกซ์อย่างสม่ำเสมอถือว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพผิวของเรา เพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์ก่อนวัย และปัจจุบันมีคลินิกจำนวนมากที่ใช้กลโกงแบบคำว่า ไม่จำกัดยู ซึ่งไม่มีคลินิกไหนยอมขาดทุนอย่างแน่นอน เพราะโบท็อกซ์ของแท้จะมาในรูปแบบผงแล้วนำมาผสมกับน้ำเกลือในอัตราส่วนที่ถูกกำหนดไว้ หากท่านใดหลงเชื่อหรือเลือกคลินิกที่ใช้กลโกงคำว่า ไม่จำกัดยู ท่านอาจจะได้น้ำเกลือในปริมาณที่เกิดกำหนดไปแทน แล้วอาจทำให้ดื้อโบได้ เพราะฉนั้นไอริคลินิกจึงให้ความสำคัญกับการโปรโมทที่ตรงไปตรงมา ภายใต้ concept สวยได้แบบไม่ขายฝัน จะแจ้งข้อมูลทุกอย่างชัดเจนว่าราคานี้ได้โบท็อกซ์กี่ยู เพื่อที่จะแก้ไข้ปัญหาได้อย่างแม่นยำ และตรงจุด

โบท็อกซ์ (Botox) คือชื่อทางการค้าของสาร Botulinum toxin A  มีฤทธิ์สกัดกั้นระบบการทำงานของเซลล์ประสาท ทำให้ไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทได้ จึงเกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อ ในปัจจุบันถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงามอย่างแพร่หลาย ทั้งยังนำมาใช้ทางการแพทย์ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งแท้จริงแล้วคำว่า “Botox” เป็นชื่อทางการค้าของบริษัท Allergan ที่คิดค้นการนำสาร Botulinum toxin A มาใช้รักษาความงามด้านริ้วรอยเป็นครั้งแรก และเป็นยี่ห้อแรกที่ได้การรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (USFDA)

ประเมินเบื้องต้น

การฉีดโบท็อกซ์แต่ละบริเวณควรใช้กี่ยู

โบท็อกซ์กราม ใช้ประมาณข้างละ 25-30 ยูนิต
โบท็อกซ์หน้าผาก ใช้ประมาณ 30 ยูนิต
โบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว ใช้ประมาณ 12-13 ยูนิต
โบท็อกซ์หางตา ใช้ประมาณ 12-13 ยูนิต
โบท็อกซ์สันจมูก ใช้ประมาณ 4-6 ยูนิต
โบท็อกซ์ปีกจมูก ใช้ประมาณ 12-13 ยูนิต
โบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้า ใช้ประมาณ 30-50 ยูนิต
โบท็อกซ์ลิฟท์เหนียง ใช้ประมาณ 30-50 ยูนิต
โบท็อกซ์ลิฟท์คอ ใช้ประมาณ 30-50 ยูนิต
โบท็อกซ์รักแร้ ใช้ประมาณ 80-100 ยูนิต
โบท็อกซ์น่อง ใช้ประมาณ 100-200 ยูนิต

* ทั้งนี้ทั้งนั้นแพทย์จะเป็นผู้ประเมินตามปัญหาและความต้องการของลูกค้า เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดมากที่สุด *

ฉีดโบท็อกซ์ราคาเท่าไหร่

โบท็อกซ์ Nabota ราคาเริ่มต้น 3,900 บาท

โบท็อกซ์ Neuronox ราคาเริ่มต้น 3,900 บาท

โบท็อกซ์ Xeomin ราคาเริ่มต้น 13,900 บาท

โบท็อกซ์ Allergan ราคาเริ่มต้น 16,900 บาท

รีวิวฉีดโบท็อกซ์

โบท็อกซ์แต่ละแบรนด์แตกต่างกันอย่างไร

โบท็อกซ์นาโบตะ ( Nabota ) เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี มีการใช้เทคโนโลยีเฉพาะ HI-PURE Technology ที่พัฒนาอย่างยาวนานและได้รับสิทธิบัตรในปี 2013 ทำให้ตัวยา Nabota Botox มีจุดเด่นเรื่องความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% เกิดอาการดื้อยาน้อย มีความปลอดภัยสูง ออกฤทธิ์ค่อนข้างไว จึงได้รับความนิยมทั้งในประเทศเกาหลี ประเทศไทย อเมริกา และโซนยุโรป

จุดเด่นขอโบท็อกซ์นาโบตะ ( Nabota )

1. เป็นโบท็อกซ์จากเกาหลียี่ห้อแรกและยี่ห้อเดียวที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน USFDA (องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา) เมื่อปี 2018

2. มีความบริสุทธิ์ถึง 98.7% ช่วยลดอัตราการดื้อยา

3. ออกฤทธิ์ไว เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์คนที่ต้องการเห็นผลแบบเร่งด่วนและราคาไม่สูง

4. ใช้เทคโนโลยีการผลิตเฉพาะ Hi-PURE Technology ที่พัฒนามาอย่างยาวนาน และได้จดสิทธิบัตรในปี 2013

คำเตือน

เนื่องจากโบท็อกซ์ Nabota เป็นโบท็อกซ์ที่มีราคาไม่สูง จึงมักเจอของปลอมและของหิ้วที่นำเข้าแบบผิดกฎหมายค่อนข้างเยอะ เมื่อฉีดเข้าไปในช่วงแรกอาจเห็นผลดีตามปกติ แต่เมื่อฉีดครั้งต่อ ๆ ไปคนไข้มีโอกาสเกิดอาการดื้อยา ไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนต่อเนื่อง หรือร้ายแรงที่สุด อาจเกิดผลข้างเคียงที่อันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นของแท้ก่อนทุกครั้ง นอกจากนี้โบท็อกซ์ Nabota ที่จำหน่ายในไทยมีเพียง 2 ขนาด คือ 100 ยูนิต (กล่องดำ) และ 200 ยูนิต (กล่องแดง) หากพบเห็นกล่องสีเขียว สีส้ม สันนิษฐานได้ว่าอาจเป็นโบท็อกซ์ปลอมหรือโบท็อกหิ้ว

โบท็อกซ์นิวโรน็อกซ์ ( Neuronox ) เป็นโบท็อกซ์สัญชาติเกาหลีตัวแรกที่อยู่มายาวนานกว่า 1 ทศวรรษ ตั้งแต่ปี 2006 โดยบริษัทผู้ผลิตในเกาหลีมีชื่อว่า Medytox ที่โดดเด่นเรื่องการค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยมั่นใจว่าคุณภาพของสาร Botulinum Toxin ใน Neuronox นั้นดีเยี่ยมไม่เป็นที่สองรองใครแถมยัง “ดีกว่า” เพราะ “ราคาถูกกว่า” แบรนด์อื่น จึงเป็นโบท็อกซ์ที่สามารถครองตลาดโบท๊อกซ์ชองเกาหลีติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายปี นิวโรน็อกซ์ผลิตที่ประเทศเกาหลีก็จริง แต่ใช้วัตถุดิบตัวเดียวกันกับของอเมริกา จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้ก็มีความบริสุทธิ์สูงถึง 98-99 % มีมาตรฐานในการทำวิจัยว่าเมื่อใช้ไปแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัยเมื่อใช้ไประยะเวลานานๆ จึงทำให้ได้รับ FDA จากหลายประเทศ และได้การรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย

จุดเด่นโบท็อกซ์นิวโรน็อกซ์ ( Neuronox )

1. โบท็อกซ์ Neuronox เป็นโบท็อกซ์เกาหลีที่ผลิตจากสายพันธุ์ออริจินัล หรือ Hall A-hyper ประสิทธิภาพเทียบเท่า Allergan และราคาดี

2. มีความบริสุทธิ์สูงถึง 98-99% จึงทำให้มีโอกาสดื้อโบท็อกน้อย

3. ได้รับการยอมรับว่ามีความปลอดภัย ถ้าเทียบกับโบท็อกซ์เกาหลีตัวอื่นในท้องตลาด โบท็อกซ์ Neuronox จะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าทั้งในเรื่องผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ การกระจายตัวยาที่แคบ ให้ผลการรักษาที่แม่นยำ

โบท็อกซ์เยอรมัน ( Xeomin ) คือ ชื่อทางการค้าของ Botulinum Toxin Type A ยี่ห้อ Xeomin ซึ่งผลิตโดยบริษัท MERZ PHARMA GMBH & CO. KGaA ประเทศเยอรมันนี เป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) เมื่อฉีดไปแล้วจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) ถูกใช้ในวงการเสริมความงามในการฉีดลดริ้วรอย ลดกราม ปรับรูปหน้า หรือฉีดในกล้ามเนื้อบริเวณอื่น ๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง

จุดเด่นของโบท็อกซ์เยอรมัน ( Xeomin )

เรียกได้ว่าเป็นโบท็อกซ์ยืนหนึ่งในวงการความงามทั่วโลกนั่นก็ว่าได้

1. โมเลกุลของท็อกซินที่แบรนด์ Xeomin พัฒนาให้มีขนาดเล็กลงนั้น ไม่มีสารอันตรายและปลอดภัยกับผู้ใช้

2. ผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากคุณภาพของโบท็อกซ์ที่มีบริสุทธิ์สูง ไม่ทำให้ดื้อโบท็อกซ์ และคนที่ดื้อโบท็อกซ์สามารถใช้ได้ ทำให้ผู้ใช้พึงพอใจในผลลัพธ์

3. ลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้ (ยกเว้นผู้มีประวัติแพ้สาร Botulinum Toxin Type A)

4. โบท็อกซ์ Xeomin กระจายตัวหลังฉีดได้ดีกว่าแบรนด์อื่น ๆ ลดความเสี่ยงในการเกิดพังผืด และการจับตัวเป็นก้อน

5. ไม่ทำให้ผิวหน้า-คอ ตึงเกินไปจนดูผิดธรรมชาติ

6. คุณภาพสมราคา ฉีดซ้ำได้โดยไม่มีอาการดื้อโบท็อกซ์

นี่คือจุดเด่นของ โบท็อกซ์ Xeomin ที่ผู้ใช้ทั่วโลกการันตี รับรองว่าเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าแบรนด์อื่น ๆ มีความเป็นธรรมชาติมาก และที่เด่นจนสาวกศัลยกรรมยอมรับคือ แก้ปัญหาการดื้อโบท็อกซ์ได้จริง ๆ บางรายที่ฉีดโบท็อกซ์หลายครั้งแล้วกล้ามเนื้อใบหน้าไม่ตอบสนองต่อโบท็อกซ์ แต่เมื่อใช้แบรนด์นี้กลับเห็นผลที่ดีขึ้นและมีความเป็นธรรมชาติมาก ๆ ทำให้หลาย ๆ คนที่มีประสบการณ์ตรงบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าฉีดแล้วไม่มีใครรู้ว่าทำโบท็อกซ์มาแน่นอน 

โบท็อกซ์อเมริกา ( Allergan ) ที่ทุกคนพูดถึงอย่างแพร่หลาย จริง ๆ แล้วเป็นชื่อทางการค้าหรือยี่ห้อหนึ่งของสาร “Botulinum Toxin A” (โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ) ซึ่งถูกผลิตโดยบริษัท Allergan ในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในวงการยาและเครื่องมือแพทย์ นอกจากการผลิตโบท็อกซ์ แล้ว Allergan ยังผลิตผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่มีชื่อเสียง เช่น ฟิลเลอร์ อย่างแบรนด์ Juvederm และเทคโนโลยีลดไขมันด้วยความเย็นอีกด้วย โบท็อกซ์ Allergan เป็นบริษัทแรกที่ทำการวิจัยคิดค้น และผลิตสาร Botulinum Toxin A เพื่อใช้ในการลดขนาดกล้ามเนื้อและริ้วรอย เป็นบริษัทที่ได้รับความนิยม และนำไปใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการคลินิกความงามทั่วโลก ดังนั้นคำว่า “โบท็อกซ์” มักถูกใช้เพื่อเรียกสาร Botulinum Toxin A ไม่ว่าจะผลิตที่ประเทศใดหรือชื่อยี่ห้อใดก็ตาม แต่ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ขึ้นชื่อว่ามีความปลอดภัย ไม่ทำให้ดื้อโบท็อกซ์ คนส่วนใหญ่ก็มักจะนึกถึง Allergan เป็นอันดับแรก เนื่องจากเป็นแบรนด์แรกที่ผ่านการรับรองจาก USFDA (องค์การอาหารและยาสหรัฐ) และถือเป็นโบท็อกซ์ที่มีประสิทธิภาพ และมีความบริสุทธิ์สูง จึงนิยมนำมาใช้ในวงการคลินิกเสริมความงามในปัจจุบัน

จุดเด่นของโบท็อกซ์อเมริกา ( Allergan )

1. botox allergan เป็นโบท็อกซ์ Original ที่คิดค้นสารโบทูลินั่ม และยังเป็นแบรนด์แรกที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) และหน่วยงานควบคุมอื่น ๆ ทั่วโลก

2. มีงานวิจัยรับรองยาวนานที่สุด กว่า 3,500 งานวิจัย (since 1989) รับรองถึงความปลอดภัย และผลลัพธ์หลังฉีด

3. botox allergan เป็นโบท็อกซ์ที่ใช้ Botulinum Toxin ชนิด Hall A-hyper (สายพันธุ์ออริจินัล ) มา สกัดเป็นตัวยา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพสูง และได้รับการยอมรับในการใช้งานในหลายประเทศทั่วโลก

4. มีความบริสุทธิ์มากถึง 99.5% จึงช่วยลดโอกาสในการดื้อโบท็อกซ์

5.ให้ผลการรักษาที่แม่นยำที่สุด เนื่องจากยากระจายตัวแคบ ทำให้หมอสามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์ได้

6. เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอยเฉพาะจุด เช่น ตีนกา ระหว่างคิ้ว ขมวดคิ้ว ฉีดโบท็อกซ์ปรับรูปหน้า ลดกราม ลิฟกรอบหน้าด้วยเทคนิค Nefertiti lift

7. เห็นผลเร็ว และมีอายุการใช้งานนานกว่ายี่ห้อโบท็อกซ์อื่น ๆ ประมาณ 20% 

REVIEW

*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสุขภาพของแต่ละบุคคล *

ฉีดโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล

โบท็อกซ์ลดริ้วรอย จะเริ่มเห็นผลใน 3-7 วันหลังฉีด และจะเห็นผลแบบชัดเจนใน 14 วัน

โบท็อกซ์ลิฟท์หน้า จะเริ่มเห็นผลใน 7 วัน และจะเห็นผลแบบชัดเจนใน 14 วัน

โบท็อกซ์กราม จะเริ่มเห็นผลใน 14 วัน และจะเห็นผลแบบชัดเจนใน 1 เดือน

โบท็อกซ์กล้ามเนื้อ น่อง จะเริ่มเห็นผลภายใน 1 เดือน และจะเห็นผลแบบชัดเจนใน 2-3 เดือน

โบท็อกซ์ควรฉีดถี่หรือห่างกันในระยะเวลาเท่าไหร่?

ในการฉีดแต่ละครั้งของโบท็อกซ์ ควรเว้นระยะเวลาการฉีดห่างกันอย่างน้อย 4-6 เดือนขึ้นไป และไม่ควรฉีดบ่อยจนเกินไปเนื่องจากจะก่อให้เกิดการดื้อโบได้ โดยการฉีดแต่ละครั้งไม่ควรเกิน 200 ยูนิต

ใครเหมาะและไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์

ผู้ที่เหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์

1. ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก ตามจุดต่างๆของใบหน้า ไม่ว่าจะเป็น หน้าผาก แก้ม หรือ รอบๆดวงตา

2. ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับเต่งตึง

3. ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้มีความเรียวเข้ารูป หรือต้องการปรับรูปหน้าทรงวีเชฟ

ผู้ที่ไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์

1. สตรีที่กำลังอยู่ในช่วงระหว่างตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างช่วงให้นมบุตร

2. ผู้ที่มีความปกติของระบบกล้ามเนื้อในร่างกาย เช่น เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

3. ผู้ที่มีรอยแผล ผื่นคัน รอยแดง เกิดขึ้นในบริเวณที่จะฉีด ควรเลื่อนการฉีดออกไปและรักษาอาการดั่งกล่าวให้หายเสียก่อน

การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์

1. หลังฉีดโบท็อกซ์ไม่ควร นวด กด แกะ เกา หรือไปโดนบริเวณที่ทำการฉีดโบท็อกซ์มา

2. หลังฉีดโบท็อกซ์ ควรงดการอยู่ในที่ร้อน เช่น อบซาวน่า ปรุงอาหารหน้าเตาร้อน เป็นเวลา 4 ชั่วโมง

3. หลังฉีดโบท็อกซ์ ควรงดเว้นการออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลา 4 ชั่วโมง

4. หลังฉีดโบท็อกซ์ ควรงดแต่งหน้าเป็นเวลา 24 ชั่วโมง

5. หลังฉีดโบท็อกซ์ ให้พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ยากระจายตัวเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น

6. หลังฉีดโบท็อกซ์ หากมีอาการบวมแดง สามารถใช้น้ำแข็งประคบบริเวณที่บวมแดง หรือช้ำได้

7. หากมีอาการผิดปกติหลังจากฉีดโบท็อกซ์ ให้กลับมาพบแพทย์ที่ให้บริการ

8. หลังฉีดโบท็อกซ์ ควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์

จบปัญหารอยย่นรอยยับ ของสาววัย 40

สวัสดีค่ะทุกคน พี่พิมนะคะ ขอแทนตัวเองว่าพี่แล้วกันเนาะตอนนี้อายุมากแล้ว เอาล่ะวันนี้พี่พิมจะมารีวิวประสบการณ์ฉีด โบท็อกซ์ลดริ้วรอย ให้อ่านกัน เนื่องจากพี่พิมอายุจะ 40 แล้ว ริ้วรอยเหล่านี้ก็ต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ถ้าถามว่าพี่พิมมีความกังวลมั้ย บอกเลยว่ามากกกก ก็เราเป็นผู้หญิงอ่ะเนาะ

ภาพก่อนฉีด โบท็อกซ์ลดริ้วรอย

วันนี้พี่พิมก็เลยเข้ามาปรึกษาคุณหมอที่ ไอริ คลินิก เกี่ยวกับเรื่องปัญหาของริ้วรอยตรงช่วงหางตา และ หน้าผาก เนื่องจากการทาสกินแคร์ไม่สามารถช่วยอะไรพี่พิมได้แล้ว และการฉีดโบท็อกซ์ก็ตอบโจทย์กับพี่พิมมากวันนี้พี่พิมฉีด โบท็อกซ์ลดริ้วรอย กับคุณหมอบิ๊วค่ะบอกเลยว่าคุณหมอให้คำแนะนำดีมากส่วนตัวยาที่ใช้เป็นแบรนด์ Nabota ค่ะ ตัวนี้เป็นแบรนด์ชั้นนำจากประเทศเกาหลีเลยนะผ่านการรับรองมารตฐาน FDA ไทย และ อเมริกา

ภาพระหว่างฉีด Nabota โบท็อกซ์ลดริ้วรอย

หลังจากที่พี่พิมได้ตรวจสอบตัวยาของแท้แล้ว Nabota เป็นตัวยาที่มีความบริสุทธิ์ถึง 98.7% ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและตรงจุด เป็นแบรนด์มารตฐานระดับโลกเชียวนะทุกคน ระหว่างฉีดพี่พิมขอบอกตรงๆว่าเหมือนมดกัด ถ้าระดับความเจ็บเต็ม 5 พี่พิมให้ 2 ทุกคนผ่านไปได้ชิลล์ๆแน่นอน

ภาพหลังฉีด Nabota โบท็อกซ์ลดริ้วรอย

ตอนนี้พี่พิมก็ฉีด Nabota โบท็อกซ์ลดริ้วรอย เสร็จแล้วจ้าหลังฉีดก็ประมาณนี้เลยจะเห็นรอยแดงหรือตุ่มจากเข็มเล็กน้อยนะแต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะรอยเหล่านี้จะหายไปเองใน 2-3 ชั่วโมง ส่วนในเรื่องการดูแลตัวเองอย่างแรกเลยคือห้ามนอนราบเป็นเวลา 4 ชั่วโมง งดทำเลเซอร์ทรีทเม้นท์ 2 สัปดาห์ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงอยู่ในที่ร้อน อย่างอบซาวน์น่าหรือหน้าอาหารเตาร้อน รับรองถ้าปฏิบัติตามนี้โบท็อกซ์อยู่ได้นานแน่นอน

หลังฉีด Nabota โบท็อกซ์ลดริ้วรอย 1 วัน ยังเห็นริ้วรอยอยู่บ้างนะก็เพิ่งผ่านไปแค่วันเดียวเองเนาะ

หลังฉีด Nabota โบท็อกซ์ลดริ้วรอย 3 วัน โอเคความตึงเริ่มมาแล้วไม่ค่อยเห็นริ้วรอยแล้วจ้า

หลังฉีด Nabota โบท็อกซ์ลดริ้วรอย 7 วัน จะบอกว่าริ้วรอยไม่ได้จางไปอย่างเดียวนะคะความเงาของหน้าผากก็มาด้วยฉ่ำสุด

หลังฉีด Nabota โบท็อกซ์ลดริ้วรอย 14 วัน เลิฟมากกกก รอยตีนการอยเหี่ยวย่นบนหน้าผากหายไปแล้วคร่านี่ขนาดเลิกสุดยิ้มสุดนะ

การฉีดโบท็อกซ์ต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนนะใครที่คิดอยากฉีดโบท็อกซ์ลองเข้ามาปรึกษากับ ไอริ คลินิก ดูค่ะจะบอกว่าที่นี้เขาบริการและให้คำแนะนำดีมากพี่พิมรับรอง

ลงจริงแบบไม่จกตารีวิวประสบการณ์ฉีดโบท็อกซ์ลดกรามครั้งแรก

สวัสดีค่ะทุกคน เบียร์ นะคะวันนี้เบียร์จะแชร์ประสบกาณ์ฉีด โบท็อกซ์ลดกราม ให้ได้อ่านกันบอกก่อนเลยว่านี่เป็นประสบการณ์ฉีดโบท็อกซ์ครั้งแรกของเบียร์ หลักๆเบียร์เป็นคนที่มีปัญหากรามใหญ่ม๊ากกก เอาเป็นว่าฉีดโบท็อกซ์ครั้งนี้จะทำให้เบียร์เปลี่ยนไปขนาดไหนไปอ่านกันเลยคร่า

วันนี้เบียร์เลือกมาฉีด โบท็อกซ์ลดกราม ที่ ไอริ คลินิก ค่ะหลังจากได้สอบถามข้อมูลเรียบร้อยเบียร์พบว่าทางคลินิกให้คำแนะนำดีมากรวมไปถึงการเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์และหลังฉีดโบท็อกซ์ว่าควรทำอย่างไร ?

ภาพก่อนฉีด โบท็อกซ์ลดกราม

การฉีดโบท็อกซ์ต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านก่อนนะคะ ซึ่งการประเมินนั้นเป็นสิ่งสำคัญกับตัวเรามากเพราะโดยปกติแล้วโครงหน้าของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากันปริมาณยาที่ให้จึงต้องแตกต่างกัน ส่วนตัวเบียร์เองปริมาณยาที่ใช้ก็จุกอยู่ค่ะเพราะกรามใหญ่ ดูจากรูปข้างบนสิคะหน้าบานขั้นสุด

ภาพระหว่างฉีด Nabota โบท็อกซ์ลดกราม

ตอนฉีด Nabota โบท็อกซ์ลดกราม ตัวนี้เป็นโบท็อกซ์ยอดนิยมจากประเทศเกาหลีเลยนะคะ และยังให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนออกฤทธิ์ไว มีความบริสุทธิ์ถึง 98.7% เบียร์จะบอกว่ามันไม่ได้เจ็บอย่างที่คิดไว้ก่อนหน้าเลย ส่วนตัวนี่เป็นครั้งแรกของการฉีดโบท็อกซ์ยอมรับว่าโอเคมากอีกอย่างที่เบียร์ไม่เจ็บคิดว่าเป็นที่คุณหมอมือเบาด้วยค่ะ

ภาพหลังฉีด Nabota โบท็อกซ์ลดกราม

หลังฉีดเสร็จจะมีรอยแดงจากเข็มเป็นจ้ำๆนิดนึงนะคะแต่รอยเหล่านี้จะจางแล้วหายไปเองใน 2-3 ชั่วโมง จากคำแนะนำจากคุณหมอถึงเรื่องปฏิบัติตนหลังฉีดโบท็อกซ์ หลักๆเลยคืองดรอบราบใน 4 ชั่วโมงแรกค่ะ งดนวดหน้าคลึงหน้า งดอยู่หน้าอาหารเตาร้อนต่างๆ และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดค่ะ

มาดูอัปเดตผลลัพธ์หลังฉีด Nabota โบท็อกซ์ลดกราม กันค่ะ

หลังฉีด Nabota โบท็อกซ์ลดกราม 3 วัน ยังไม่แตกต่างจากวันแรกเท่าไหร่นะคะช่วง 3 วันแรกเบียร์มีความรู้สึกว่าตึงๆหน่วงๆอยู่บ้างนิดหน่อยค่ะ

หลังฉีด Nabota โบท็อกซ์ลดกราม 14 วัน หน้าเล็กลงแล้วแกร เบียร์รู้สึกว่าหน้าเข้ารูปแบบเห็นได้ชัดซึ่งแตกต่างจากช่วง 3 วันแรกมาก

หลังฉีด Nabota โบท็อกซ์ลดกราม 1 เดือน เบียร์โอเคมากค่ะโครงหน้าชัดขึ้นกรามลดลงเยอะมาก จากแต่ก่อนที่หน้าบานๆตอนนี้ดูเรียวขึ้นเยอะเลย

เบียร์จะเทียบผลลัพธ์แบบชัดๆ ก่อนฉีด-หลังฉีด Nabota โบท็อกซ์ลดกราม ให้ดูนะคะ

และประสบการณ์ฉีด โบท็อกซ์ลดกราม ครั้งแรกของเบียร์ผลลัพธ์ที่ได้คือแตกต่างกันชัดเจนมากยอมรับว่าปลื้มมากค่ะ เอาเป็นว่าใครที่มีปัญหากรามใหญ่แล้วยังหาตัวช่วยอยู่เบียร์แนะนำฉีด Nabota โบท็อกซ์ที่ ไอริ คลินิก ค่ะ เบียร์รับประกันว่ายุบจริง

179/3 ซอย วิภาวดี16/17 แขวงดินแดง
เขตดินแดง กทม. 10400
เปิดบริการ : 11.00-20.00 น. ( หยุดทุกวันพุธ )
โทรศัพท์ : 02-0023121 , 063-2629292
ติดตามเราได้ที่

ปรึกษาฟรี

แอดมินพร้อมให้บริการ

ปรึกษาฟรี

แอดมินพร้อมให้บริการ
cross