โบท็อกซ์ (Botox) เป็นหัตถการยอดฮิตที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวย และช่วยให้ผิวดูตึงกระชับขึ้น หลายคนอาจสงสัยว่าควรฉีดโบท็อกซ์บริเวณไหน และแต่ละจุดช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง วันนี้เรารวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว
หน้าผาก - หว่างคิ้ว
เมื่อแสดงสีหน้าหรือเลิกคิ้วบ่อย ๆ อาจเกิดรอยย่นบริเวณหน้าผาก การฉีดโบท็อกซ์จะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณนี้ ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยลดลงรอยขมวดคิ้วเป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำให้ใบหน้าดูเคร่งเครียดและแก่ก่อนวัย โบท็อกซ์สามารถช่วยลดการหดตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้หน้าดูสดใสขึ้น ไม่ดูดุหรือเครียดตลอดเวลา
หางตา - ตีนกา
เวลายิ้มหรือหัวเราะ กล้ามเนื้อบริเวณหางตาจะหดตัวและทำให้เกิดรอยตีนกา การฉีดโบท็อกซ์ช่วยลดริ้วรอยเหล่านี้ ทำให้ดวงตาดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้นเป็นการฉีดตัวยาเข้าไปที่บริเวณกล้ามเนื้อบริเวณหางตา หลังฉีดตัวยาจะไปออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ส่งผลให้กล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว ผิวหนังบริเวณที่ฉีดจะตึงขึ้น ไม่เกิดเป็นรอยพับ จึงช่วยลดริ้วรอยบริเวณหางตา ลดริ้วรอยตีนกา
กราม
หากคุณมีกรามที่เด่นชัดหรือมีกล้ามเนื้อกรามแข็งแรงจากการเคี้ยวอาหารบ่อย ๆ การฉีดโบท็อกซ์ช่วยให้กล้ามเนื้อกรามเล็กลง ส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวยและสมส่วนมากยิ่งขึ้น ที่จะช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกรามให้มีขนาดเล็กลง ใครที่มีปัญหาหน้าบาน หน้าใหญ่ รู้สึกใบหน้าไม่สมส่วนเพราะมีขนาดกล้ามเนื้อใหญ่ก็สามารถใช้การฉีดโบท็อกเพื่อจัดการปัญหาดังกล่าวได้
ลิฟท์กรอบหน้า
การฉีดโบท็อกซ์บริเวณกรอบหน้า หรือที่เรียกว่าการทำ “Nefertiti Lift” จะช่วยให้ใบหน้าดูกระชับขึ้น กรอบหน้าคมชัด ไม่หย่อนคล้อย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้นโบท็อกลิฟกรอบหน้า หรือโบลิฟท์หน้า คือ การฉีด เข้าไปบริเวณคอ กรอบหน้า ใต้คาง หลังฉีดตัวยาจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ช่วยคลายกล้ามเนื้อส่วนคอ ให้ออกแรงดึงได้น้อยลง ยกกระชับกรอบหน้าขึ้น ลิฟท์หน้าเรียวขึ้น
เลเซอร์กำจัดขนเป็นวิธีที่ใช้ พลังงานจากแสงเลเซอร์ เพื่อทำลายรากขน (Hair Follicle) แสงเลเซอร์จะถูกดูดซับโดยเม็ดสีเมลานินในเส้นขนทำให้เกิดความร้อนที่สามารถทำลายรูขุมขนและยับยั้งการเจริญเติบโตของขนใหม่ได้ เมื่อทำซ้ำหลายครั้ง ขนจะขึ้นน้อยลง บางลง และสุดท้ายอาจหยุดขึ้นถาวร
Diode Laser เป็นเลเซอร์กำจัดขนที่ใช้ ความยาวคลื่นโดยมีพลังงานเลเซอร์ถึง 3 ระดับ คือ 755 , 808 และ 1064นาโนเมตร ซึ่งสามารถทำลายเม็ดสีเมลานินลงลึกถึงเส้นขนและยังทำลายเส้นเลือดฝอย ซึ่งเป็นตัวหล่อเลี้ยงรากขนได้อีกด้วย ทำให้ขนขึ้นน้อยลงและค่อยๆ หายไปได้เร็วกว่าเลเซอร์แบบอื่น และยังมีจุดเด่นที่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว พร้อมทั้งยังช่วยให้ผิวกระจ่างใส รวมถึงการรักษาขนคุด และรูขุมขนอักเสบ ไม่เจ็บไม่เบิร์น ปลอดภัยต่อผิว เพระมีความเย็นติด -16 c
เลเซอร์กำจัดขนเหมาะกับใคร?
ผู้ที่มีขนหนาและสีเข้มเพราะเลเซอร์ทำงานได้ดีที่สุดกับขนที่มีเม็ดสีเยอะและยังทำได้อย่างทั่วถึงเพราะมีหัวเลเซอร์ขนาดใหญ่ มีการผลลัพธ์ระยะยาวโดยไม่ต้องโกนหรือแว็กซ์บ่อยๆ หมดปัญหาผู้ที่มีขนคุดหรือขนแข็ง ที่มักเกิดจากการโกนหรือแว็กซ์บ่อยๆ
ข้อดีของการเลเซอร์
กำจัดขนถาวรในระยะยาวขนจะขึ้นช้าลงหรือไม่ขึ้นเลยลดปัญหาขนคุดและระคายเคืองเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาขนคุดจากการโกนหรือแว็กซ์ช่วยให้ผิวเรียบเนียนไม่มีตอขนเหมือนการโกนประหยัดเวลาในระยะยาวไม่ต้องกำจัดขนบ่อย ๆ
test
รอยแตกลาย คือรอยแผลเป็นชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากผิวหนังยืดหรือหดตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวหนังแท้ฉีดขาด มักจะเกิดบริเวณที่มีไขมันสะสมเป็นจำนวนมาก เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง หน้าอก สะโพก และน่อง มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทุกวัย สรีระร่างกายที่มีการเติบโต การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักอย่างรวดเร็ว รวมถึงฮอร์โมนและการขยายตัวของผิวระหว่างการตั้งครรภ์
รอยแตกสีแดง (Striae Rubra) คือ เป็นรอยผิวแตกลายที่เกิดขึ้นใหม่ที่มักเกิดขึ้นจากการที่ร่างกายของเรายืดตัวรวดเร็วเกินไป โดยรอยแตกลายเหล่านี้จะทำให้หลอดเลือดแดงใต้ชั้นผิวหนังขยายตัว มักจะมีสีแดง หรือ สีม่วง ตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล ข้อดีของรอยแตกสีแดงนี้ คือรักษาได้ง่ายกว่ารอยแตกสีขาว
รอยแตกสีขาว (Striae Alba) คือ รอยแตกลายที่เกิดขึ้นมานานแล้วจนกลายเป็นสีขาว โดยรอยแตกสีขาวเหล่านี้มีที่มาจากการค่อยๆจางลงของหลอดเลือดที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง เกิดรอยบุ๋มลงไปบนผิวหนัง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเป็นรอยแตกที่เก่าแล้ว การรักษามีความยากมากกว่ารอยแตกสีแดงที่เป็นรอยแตกใหม่
ซึ่งการรักษารอยแตกด้วยการเลเซอร์ในปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สามารถเห็นผลได้ค่อนข้างชัดเจนและมีประสิทธิภาพของการรักษารอยแตก ซึ่งระยะเวลาการรักษานั้นจะขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งและปัญหาของรอยแตกในแต่ละบุคคล
การทำเลเซอร์จะช่วยลดความคล้ำของรอยแตกได้เป็นอย่างดี โดยจะเป็นการรักษาแบบตกสะเก็ดคือการยิงรำแสงของเลเซอร์ที่เป็นจุดไข่ปลาเล็กๆลงไปโดยตรง ช่วยบริเวณที่ยิงมีรอยที่จางลง ผ่านการยิงพลังงานลงใต้ชั้นผิว เพื่อฟื้นฟูปัญหาของชั้นผิว และปรับเม็ดสีที่ผิดปกติให้กลับสู่ชั้นผิวที่ปกติมากขึ้น