ปัจจุบันโปรแกรมที่กำลังเป็นที่นิยมในคลินิกความงาม คือ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ที่ช่วยปรับรูปหน้าด้วยสารเติมเต็ม เพื่อให้ใบหน้าดูสวยละมุนมากยิ่งขึ้น บริเวณที่นิยมฉีดฟิลเลอร์แล้วหน้าเปลี่ยนได้แก่ ฟิลเลอร์ปาก ใต้ตา คาง ขมับ ร่องแก้ม และที่ไอริคลินิกก็ให้บริการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์มาอย่างยาวนาน พร้อมเสริฟรีวิวมากมายให้แก่ลูกค้าทุกท่าน
ฟิลเลอร์ ( Filler ) คือ สารสังเคราะห์ที่มีความคงตัวสูง สลายได้เองตามธรรมชาติและก่อให้เกิดอาการแพ้น้อยมาก โดยสารที่ปัจจุบันนิยมใช้การ คือ สารไฮยาลูโลนิก ( Hyaluronic Acid ) หรือเอชเอ ( HA ) เป็นสารที่พบได้ในชั้นผิวปกติ และจะมีปริมาณลดลงเมื่ออายุเรามากขึ้น กังนั้นในทางแพทย์จึงได้มีการคิดค้น ฟิลเลอร์ ไฮยาลูโลนิก ( Hyaluronic ) สังเคราะห์ขึ้นมา เพื่อใช้ฉีดเติมเต็มเข้าไปในชั้นผิวหนังเพื่อทดแทนเส้นใยคอลลาเจนที่สลายไป ช่วยในการเติมเต็มรูปหน้า เติมร่องลึกต่างๆ และปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนมากยิ่งขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์แต่ละจุดควรใช้กี่ cc
เป็นคำถามยอดฮิตว่า ฉีดฟิลเลอร์บริเวณไหนได้บ้าง และแต่ละบริเวณควรใช้กี่ cc ซึ่งบริเวณที่นิยมฉีดฟิลเลอร์นั้นคือ ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์แก้มส้ม และ ฟิลเลอร์กรอบหน้า ซึ่งโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แต่ละบริเวณ เป็นโปรแกรมที่ทำแล้วเห็นความเปลี่ยนแปลงทันที และในการฉีดฟิลเลอร์แต่ละบริเวณนั้น แพทย์จะเป็นผู้ประเมินตามปัญหา และความต้องการของผู้ใช้บริการทุกท่าน เพื่อแนะนำปริมาณในการใช้ฟิลเลอร์อย่างเหมาะสม โดยต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ
โดยเริ่มต้นแล้วการฉีดฟิลเลอร์แต่ละบริเวณต้องใช้กี่ซีซีมีดังนี้
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ จะใช้ฟิลเลอร์อยู่ที่ 2-4 cc
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะใช้ฟิลเลอร์อยู่ที่ 1-2 cc
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะใช้ฟิลเลอร์อยู่ที่ 2-4 cc
ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม จะใช้ฟิลเลอร์อยู่ที่ 2-3 cc
ฉีดฟิลเลอร์ปาก จะใช้ฟิลเลอร์อยู่ที่ 1-2 cc
ฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า จะใช้ฟิลเลอร์อยู่ที่ 2-4 cc
ฉีดฟิลเลอร์คาง จะใช้ฟิลเลอร์อยู่ที่ 2-4 cc
*ในการฉีดฟิลเลอร์แต่ละครั้ง ไม่จำเป็นต้องเติมทีเดียวในปริมาณมาก สามารถทยอยเติมได้เรื่อยๆ จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงามขึ้น *
รีวิวฉีดฟิลเลอร์
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการแก้ไข้ และประมาณในการใช้ฟิลเลอร์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้บริการทุกครั้ง *
ติดต่อเพื่อรับโปรโมชั่น
ฉีดฟิลเลอร์ราคาเท่าไหร่
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ราคาแต่ละแบรนด์ต่างกัน ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับอายุการสลายของฟิลเลอร์ และความเหมาะของแต่ละบริเวณที่จะฉีด โดยแพทย์จะเป็นผู้ให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดที่สุด
ฟิลเลอร์ปาก ราคาเริ่มต้น 5,990 บาท
ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเริ่มต้น 5,990 บาท
ฟิลเลอร์คาง ราคาเริ่มต้น 5,990 บาท
ฟิลเลอร์ขมับ ราคาเริ่มต้น 5,990 บาท
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ราคาเริ่มต้น 5,990 บาท
ฟิลเลอร์กรอบหน้า ราคาเริ่มต้น 5,990 บาท
*ไม่มีเซลล์ขายให้อึดอัด ให้ราคาดีตรงไปตรงมา พาตรวจสอบของแท้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ทุกเคส สามารถเอากล่องกลับบ้านได้ *
ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ?
EPTQ
ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี นำเข้าโดยบริษัท เอสทีมา จำกัด (Aestema Co., Ltd.) ใช้กระบวนการผลิต ZEEP technology (Zero Endotoxin & BDDE Entire Process) ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความปลอดภัย ไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย โมเลกุล Hyaluronic Acid (HA) ที่ใช้ได้รับการรับรองจาก USFDA และ EDQM ด้วยปริมาณความเข้มข้นสูงถึง 24 mg/ml
EPTQ S100 เหมาะสำหรับเติม หน้าผาก ขมับ ใต้ตา เพิ่มความชุ่มชื้นให้ปาก ระยะเวลาอยู่ได้ประมาน 6 – 9 เดือน
EPTQ S300 เหมาะสำหรับเติม หน้าผาก ขมับ แก้มตอบ ร่องแก้ม ปาก ระยะเวลาออยู่ได้ประมาน 9 – 12 เดือน
EPTQ S500 เหมาะสำหรับเติม แก้มส้ม แนวกระดูกราม คาง จมูก ลิฟหน้า ระยะเวลาอยู่ได้ประมาน 12 เดือน
Restylane
ฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน เป็นฟิลเลอร์แบรนด์แรกของโลกที่มีการผลิตและพัฒนา มาอย่างยาวนาน รวมถึงได้รับความนิยมอย่างมากจากทั่วโลก โดยเป็นสารเติมเต็มที่ใช้ส่วนประกอบของ ไฮยารูลอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง ช่วยเติมเต็มปรับรูปหน้าให้สวยอย่างเป็นธรรมชาติ และยังเป็นแบรนด์ฟิลเลอร์ที่แพทย์ทั่วโลกให้การยอมรับ
Restylane Vital Light ฟิลเลอร์ชนิดนี้มีส่วนผสมของยาชา เป็นโมเลกุลที่เล็กที่สุด มีความนิ่มมากที่สุด เติมเต็มร่องน้ำตา ลดใต้ตาคล้ำ บูสท์ผิวให้กระจ่างใสดูมีออร่าขึ้น ระยะเวลาอยู่ได้ประมาน 8-12 เดือน
Restylane Lyft เป็นฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของยาชา เป็นเนื้อเจลที่มีลักษณะแข็งแรงที่สุด คงรูป มีแรงยกกระชับได้สูง เติมแก้ม ขมับ คาง สร้างกรอบหน้า ใช้ฉีดยกกระชับปรับรูปหน้า ระยะเวลาอยู่ได้ประมาณ 12 เดือน
Restylane Kysse เป็นฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของยาชา เนื้อเจลนิ่มไม่เป็นก้อน กลืนกับเนื้อริมฝีปากได้ดี ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อฉีดปากโดยเฉพาะ สามารถให้ผลลัพธ์ทั้งในเรื่องของการปรับรูปทรงปาก และเติมความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก ระยะเวลาอยู่ได้ประมาณ 12 เดือน
" Restylane เป็นฟิลเลอร์แบรนด์ยอดนิยม ที่แพทย์ทั่วโลกให้การยอมรับ "
JUVEDERM
ฟิลเลอร์จากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นฟิลเลอร์กลุ่ม Hyaluronic Acid ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ที่ได้รับความนิยมจากแพทย์ทั่วโลกมายาวนาน ผ่านการรับรองจาก US FDA และ อย. ประเทศไทย ผลิตและนำเข้าโดย บริษัท Allergan Thailand เป็นฟิลเลอร์ที่มีความพิเศษเฉพาะตัว มีทั้งอุ้งน้ำน้อย อุ้งน้ำมาก เมื่อเติมเต็มเกิดความเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ และผลลัพธ์ที่ยาวนาน
Volbella ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะเติมเต็มใต้ตา หรือ ปาก
เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีโมเลกุลขนาดเล็กที่มีความละเอียดมากที่สุด เป็นธรรมชาติ เรียบเนียน หลังฉีดจะดู ไม่เป็นก้อน แก้ปัญหาใต้ตาที่คล้ำ ร่องใต้ตาลึก หรือ ร่องปาก ได้ดี ระยะเวลาอยู่ได้ประมาณ 12-15 เดือน
Voluma ฟิลเลอร์เนื้อแข็งและฟูปานกลาง ขมับ แก้มส้ม แก้มตอบ ร้องแก้ม คาง ขอบปาก
เป็นรุ่นที่นิยมที่สุดทั่วโลก มีปริมาณHAมากที่สุด มีโมเลกุลขนาดใหญ่ มีความยืดหยุ่นสูง เรียกได้ว่าเป็นฟิลเลอร์ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้เกือบทุกตำแหน่ง ระยะเวลาอยู่ได้ประมาณ 18-24 เดือน
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิวฟิลเลอร์คาง
รีวิวฟิลเลอร์ปาก
ติดต่อเพื่อรับโปรโมชั่น
ตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ก่อนฉีดทุกครั้ง
วิธีการสังเกตว่าเป็นฟิลเลอร์แท้สามารถสังเกตได้ง่ายๆ ดังนี้
1. ตรงบริเวณกล่องจะต้องมี ฉลากภาษาไทย มีราคา และมีวันหมดอายุระบุอย่างชัดเจน
2. มี QR Code ระบุวันที่ผลิต วันหมดอายุ เลขที่อ้างอิงอย่างชัดเจน
3. สามารถโทรสอบถามเลข Lot กับทางบริษัทได้โดยตรง
4. ด้านในกล่อง ผลิตภัณฑ์จะต้องบรรจุอยู่ในแพ็คเกจที่สะอาด ปิดผลึกมาอย่างดี และจะต้องมีเอกสารคู่มือในกล่อง
ข้อปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ 2 อาทิตย์ก่อนทำ
1. ควรหาข้อมูลรีวิวจากคนไข้ที่ทำจริง หากดูตามเพจความเป็นวีดีโอให้เห็นจะดีมากกว่ารูปรีวิวธรรมดา
2. เลือกหมอและวิธีการทำการรักษา เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีและเกิดอาการบวมช้ำน้อย ควรศึกษาประสบการณ์ของแพทย์และความน่าเชื่อถือของคลินิก
3. เลือกยี่ห้อและชนิดของฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน
1 อาทิตย์ก่อนทำ
1. ควรงดรับทานยา แอสไพริน, NSAIDs
2. ควรงดวิตามิน E
3. ควรงดยาทาชนิดผลัดเซลล์ทุกชนิด
4. หากต้องทำหน้า นวดหน้า หรือเลเซอร์ต่างๆ ควรทำมาก่อนอย่างน้อย 3 วันก่อนการฉีดฟิลเลอร์ เพราะหลังทำต้องเว้นไปอีก 2 อาทิตย์
5. หากมีโรคประจำตัว หรือทานยาเป็นประจำ ควรเตรียมแจ้งกับแพทย์ที่ทำหัตถการให้ 24 ชั่วโมง
ก่อนทำ
1. งดดื่มแอลกอฮอล์
2. งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การซาวน่า การออกกำลังหนักๆ
ข้อปฏิบัติตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์
6 ชั่วโมงหลังทำ
1. ยาชาเริ่มหายบวม ถ้าจุดไหนที่ยังบวมมากควรประคบเย็นช่วย ไม่ควรกดแรงๆ
กลางคืนหลังฉีดฟิลเลอร์
1. จะเริ่มมีอาการปวด ระบมมากขึ้น ควรทานยาพาราเซตามอล ทุกๆ 4 ชม.แล้วยังปวดมากอยู่ สามารถทานยาแก้ปวดในกลุ่มอื่นๆช่วยเสริมได้ แต่ถ้าไม่เคยทานยาเหล่านี้มาก่อนควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำหัตถการหรือเภสัชกรก่อนใช้ยา
2. ควรนอนในห้องแอร์ที่อุณหภูมิ 18-23 องศา หนุนหมอนอย่างน้อย 2 ใบขึ้นไป ไม่ควรนอนตะแคง 2-3 คืนแรกหลังทำเพื่อป้องกันการกดทับหน้า
หลังทำ 24 ชม.
1. จะเริ่มมีอาการบวมมากขึ้น สำหรับฟิลเลอร์บางคนอาจเข้าใจผิดว่าฟิลเลอร์ฟูขึ้น แต่เมื่อผ่านไป 7-14 วัน อาการบวมเข็มจะยุบลงอย่าเข้าใจว่าฟิลเลอร์สลายไป การดูฟิลเลอร์ควรดูตอนฉีดเสร็จทันทีและหลังจาก 14 วันระหว่างนั้นไม่สามารถประเมินได้เพราะเป็นอาการบวม
หลังทำ 48 ชม.
1. สามารถล้างหน้า ทาครีมบำรุง แต่งหน้าทับรูเข็มได้ตามปกติ